CBG กำไรปี 65 วูบ 21% เหลือ 2,286 ล้านบาท ปันผล 0.75 บาท/หุ้น

“แอ๊ด คาราบาว” เล่าชีวิตหลังเวทีคอนเสิร์ต พร้อมแสดงจุดยืนในฐานะนักแต่งเพลง มีแค่ 2 เรื่องที่จะทำ

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2566 นายวรัญชัย เจนศิริวณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายยกฎหมาย / เลขานุการบริษัท บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CBG ได้บรรลุข้อตกลงกับ English Football League Limited ในการสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลในรายการ คาราบาว คัพ(Carabao Cup) ต่อไปอีก 3 ปี

โดยเริ่มตั้งแต่ฤดูการแข่งขันปี 2024/2025, 2025/2026 และ 2026/2027 รวมอายุการสนับสนุนทั้งสิ้น 10 ฤดูกาล ตั้งแต่ปีฤดูกาล 2017/2018 เป็นต้นมา ซึ่งมูลค่าการขยายการเป็นผู้สนับสนุนในครั้งนี้รวมประมาณ 18 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 800 ล้านบาท

ด้านหุ้น CBG เช้าวันนี้เปิดตลาดราคาปรับลดลงแตะ 66.25 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ2 เดือน ก่อนที่ในช่วงสายราคาจะฟื้นขึ้นมาเล็กน้อย

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มกำไรปกติ ของ CBG ในไตรมาส 3 ปี 66 เบื้องต้นมีโอกาสฟื้นตัวได้ทั้งรายไตรมาส (QoQ) และรายปี (YoY) คาดในกรอบ 470–550 ล้านบาท แม้ว่ารายได้จะประเมินว่ามีโอกาสชะลอลงทั้ง QoQ และ YoY ตามปัจจัยฤดูกาลและตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศที่จะยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป QoQ ทั้งในกัมพูชาและเมียนมา

แต่จะชดเชยได้บางส่วนจากรายได้ในประเทศที่คาดบริษัทจะได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอีกราว +/-1% จากสิ้นงวดไตรมา 2 ปี 66 ที่ราว22% หนุนปริมาณขาย อย่างไรก็ตามประเมินว่า GPM ของบริษัทจะฟื้นตัวได้ต่อจากการจะรับรู้แนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบและราคาพลังงานที่ปรับลดลงได้ชัดเจนมากขึ้นอาทิ อลูมิเนียม, ก๊าซธรรมชาติและค่าไฟฟ้าส่วนราคาน้ำตาลทรงตัว QoQ

ทั้งนี้ มีมุมมองบวกมากขึ้นต่อผลการดำเนินงานในระยะยาวของ CBG โดยบริษัทให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับธุรกิจเบียร์ของเครือคาราบาวตะวันแดง ซึ่ง บล.หยวนต้า คาด CBG จะเริ่มรับรู้รายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่าย (3rd Party Distribution) และบรรจุภัณฑ์ให้กับธุรกิจเบียร์ดังกล่าวตั้งแต่ในเดือนต.ค.-พ.ย.นี้เป็นต้นไป โดยบริษัทตั้งเป้าปริมาณขายที่ราว 30 ล้านหน่วยต่อเดือน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดราว7-8% ของตลาดเบียร์

โดยประเมินอย่างระมัดระวังว่า CBG จะรับรู้รายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายและการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้ธุรกิจเบียร์ของเครือรวมอยู่ที่ 3,900 ล้านบาท ในปี2567 และช่วยหนุนกำไรสุทธิราว 300 ล้านบาท จึงปรับประมาณการกำไรปี 2567 ขึ้น 8.2% เพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าว รวมถึงปรับรายได้ธุรกิจในต่างประเทศลงจากการปรับกลยุทธ์การขายในจีน ทำให้คาดกำไรปี 2567อยู่ที่ 2,516 ลบ. เพิ่มขึ้น 40.0% จากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้บริษัทให้มุมมองว่ามีโอกาสในการออกเครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มใหม่เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มราคาปลีก 12 บาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาคาดจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งแรกของปี 67 เป็น Upside ระยะยาว

Photo :Lillian SUWANRUMPHA / AFP

อ.เจษฎา ออกมาไขคำตอบ ทำไม? เทสลา ถึงแจ้งเตือน "ผี" ได้

รู้จัก "Super App" แอปฯครบวงจร รองรับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ประกาศเตือนฉบับที่ 4 พายุดีเปรสชันทวีกำลังแรงขึ้น! คำพูดจาก สล็อต true wallet